เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติของร่างกายจะลดลง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ผมบาง และอาการปวด ข้อ อาหารเสริมคอลลาเจน จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ แต่คุณควรพิจารณาอะไรบ้างเมื่อเลือกอาหารเสริมคอลลาเจน? มาดูกันดีกว่า
1. คอลลาเจนประเภทใดที่เหมาะกับคุณ?
คอลลาเจนมีหลายประเภทในร่างกาย และแต่ละประเภทมีหน้าที่เฉพาะของตัวเอง
-
คอลลาเจนประเภท I และ III ดีที่สุดสำหรับสุขภาพผิว ผม เล็บ และกระดูก
-
คอลลาเจนประเภทที่ 2: ช่วยเสริมสร้างสุขภาพข้อต่อและกระดูกอ่อน
หากเป้าหมายของคุณคือการมีผิวที่ดูอ่อนเยาว์ คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคอลลาเจนประเภท I และ III
2. เลือกไฮโดรไลซ์คอลลาเจน (คอลลาเจนเปปไทด์)
โมเลกุลคอลลาเจนมีขนาดใหญ่ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายขึ้น จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบ “ไฮโดรไลซ์” ซึ่งหมายความว่าคอลลาเจนจะถูกย่อยสลายเป็นเปปไทด์ที่มีขนาดเล็กลง
-
คอลลาเจนเปปไทด์จะถูกดูดซึมได้ดีขึ้นในลำไส้เล็กและเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
โดยทั่วไปคอลลาเจนรูปแบบนี้จะแสดงผลหลังจากการใช้เป็นประจำเป็นเวลา 8–12 สัปดาห์
3. ใส่ใจส่วนผสมและสารเติมแต่ง
อาหารเสริมคอลลาเจนบางชนิดอาจมีสารให้ความหวาน สารกันบูด หรือน้ำตาลที่เพิ่มเข้ามาโดยไม่จำเป็น
-
การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำตาลและมีฉลากสะอาดมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวมากกว่า
4. ปริมาณที่ควรได้รับต่อวันควรเป็นเท่าไร?
-
การศึกษาทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าการรับประทานคอลลาเจนวันละ 2.5 ถึง 10 กรัม ก็เพียงพอแล้ว
-
ควรตรวจสอบฉลากเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีปริมาณการใช้ที่มีประสิทธิภาพ
5. แบรนด์ที่เชื่อถือได้และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง
เมื่อซื้ออาหารเสริมคอลลาเจน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ผลิต:
-
ได้รับการรับรองจาก กระทรวงเกษตรและป่าไม้ (สำหรับผลิตภัณฑ์จากตุรกี)
-
หรือหากเป็นผลิตภัณฑ์ระดับนานาชาติก็ได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ เช่น EFSA (European Food Safety Authority) หรือ FDA (US Food and Drug Administration)
6. พิจารณาแหล่งที่มาของคอลลาเจน
อาหารเสริมคอลลาเจนโดยทั่วไปมีแหล่งที่มาจาก:
-
วัว
-
ทะเล (ปลา),
-
หมู(หมู).
คอลลาเจนจากปลามัก เป็นที่นิยมสำหรับ สุขภาพผิว เนื่องจากมีขนาดโมเลกุลเล็กและดูดซึมได้ง่าย คอลลาเจนเปปไทด์จากปลามีความคล้ายคลึงกับคอลลาเจนของมนุษย์ในระดับสูง และถือว่าปลอดภัย เสถียร และดูดซึมได้สูงในระบบทางเดินอาหาร